วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

องค์ประกอบในการเรียนการสอน   มี  2   ด้าน คือ
            1.องค์ประกอบในการเรียนการสอนด้านตัวครู
           2.องค์ประกอบในการเรียนการสอนด้านผู้เรียน
(1)    องค์ประกอบในการเรียนการสอนด้านตัวครู
          ในการจัดการศึกษาให้แก่ประชาชนในชาตินั้น  ได้ยึดระบบการศึกษาตามแผนการศึกษาแห่งชาติ  พุทธศักราช  2535   ซึ่งเป็นระบบที่ให้บุคคลได้ศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิต โดยจัดรูปแบบการเรียนรู้ตามแนวระบบโรงเรียน   และการศึกษาที่เกิดจากกระบวนการเรียนรู้ในวิถีชีวิต   โดยมีระบบดังต่อไปนี้
<!--[if !supportLists]-->1.            <!--[endif]-->ระบบการศึกษา
         สำหรับการศึกษาตามแนวระบบโรงเรียน   แบ่งระดับการศึกษาเป็น  4   ระดับ  คือ  ระดับก่อนประถมศึกษา  ระดับประถมศึกษา   ระดับมัธยมศึกษา   และระดับอุดมศึกษา
<!--[if !supportLists]-->1.            <!--[endif]-->การศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา
     เป็นการศึกษาในลักษณะของการอบรมเลี้ยงดู  และพัฒนาความพร้อมของเด็กทั้งทางด้านร่างกาย  จิตใจ  สติปัญญา  อารมณ์  บุคลิกภาพ  และสังคมเพื่อรับการศึกษาในระดับต่อไป   การจัดการเรียนรู้ในระดับนี้  เป็นการจัดให้แก่เด็กกลุ่มอายุ  3-5   ปี   โดยจัดเป็นชั้นอนุบาล   หรือชั้นเด็กเล็ก   หรือศูนย์พัฒนาเด็กประเภทต่างๆตามลักษณะพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย
<!--[if !supportLists]-->2.            <!--[endif]-->การศึกษาระดับประถมศึกษา
    เป็นการศึกษาภาคบังคับ  ซึ่งรัฐบาลต้องการให้ประชาชนทุกคนได้รับการศึกษาระดับนี้อย่างทั่วถึง  เพื่อเป็นรากฐานการพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์  ทั้งคุณธรรม  จริยธรรม   ความรู้และความสามารถขั้นพื้นฐาน  โดยจัดเป็นชั้น ป.1-6   รวม  6  ปี
<!--[if !supportLists]-->3.            <!--[endif]-->การศึกษาระดับมัธยมศึกษา     แบ่งออกเป็น   ตอน
          -ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น   การศึกษาระดับนี้  รัฐบาลได้มีนโยบายกำหนดให้เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานของประชาชน  และรณรงค์ให้ประชาชนได้มีโอกาสเรียนต่อในระดับนี้อย่างทั่วถึง  โดยจัดเป็นชั้น  ม.1-3 (ปี)  มุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาคุณภาพ  ความรู้  ความสามารถ  และทักษะต่อจากระดับประถม  การศึกษาในระดับนี้ต้องการให้เรียนได้สำรวจตนเองทั้งในด้านความต้องการ  ความสนใจ  และความถนัดทางด้านวิชาการและวิชาชีพ
          -ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย   การศึกษาในระดับนี้  มุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนตามความถนัด  และความสนใจ  เพื่อเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา  หรือเพื่อการประกอบอาชีพ  โดยจัดเป็น  2   ประเภท คือ จัดเป็นการศึกษาสามัญ ชั้นปีที่ 4-5-6 (3 ปี) สำหรับการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา   หรือ   มหาวิทยาลัยต่างๆ และจัดเป็น-การศึกษาวิชาชีพ   หรืออาชีวศึกษาชั้น   ปวช .1-2-3(3 ปี)   สำหรับการประกอบการงานและ อาชีพ  หรือศึกษาต่อในระดับสูง(ปวส. ปวท. หรืออนุปริญญา/ปริญญาตรี)
4.   การศึกษาระดับอุดมศึกษา
          เป็นการศึกษาหลังระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย   แบ่งออกเป็น  3   ระดับ   คือ
<!--[if !supportLists]-->-                   <!--[endif]-->ระดับต่ำกว่าปริญญาตรี
        มุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความรู้และทักษะวิชาชีพในระดับกลางหรืออนุปริญญา(ปี) 
<!--[if !supportLists]-->-                   <!--[endif]-->ระดับปริญญาตรี
       มุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้   ความสามารถในสาขาต่างๆในระดับสูง  โดยประยุกต์ทฤษฎีนำไปสู่การปฏิบัติ
<!--[if !supportLists]-->-                   <!--[endif]-->ระดับสูงกว่าปริญญาตรี
      มุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้  และทักษะในสาขาเฉพาะทางให้มีความชำนาญมากยิ่งขึ้น   สร้างสรรค์ความก้าวหน้าและความเป็นเลิศทางวิชาการ   โดยเฉพาะการศึกษา-ค้นคว้าวิจัย  และการพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีในด้านต่างๆ  เพื่อการประยุกต์ใช้กับวิทยาการสากล  และภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย   การศึกษาในระดับนี้  ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษา  โดยจัดหลักสูตรระดับปริญญาโทและปริญญาเอก 
ส่วนประกอบของระบบ
           ระบบประกอบด้วยส่วนสำคัญมี  4   ประการ   และมีความสัมพันธ์กัน   คือ
1.     ตัวป้อน          ( Input )
2.     กระบวนการ   ( Process )
3.     ผลผลิต          ( Out  put )
4.     ข้อมูลป้อนกลับ    ( Feed  back )

<!--[if !supportLists]-->2.            <!--[endif]-->  ระบบการเรียนการสอน
ความสำคัญของระบบการเรียนการสอน 
1.การทำงานอย่างเป็นระบบนั้นสิ่งต่างๆที่เป็นองค์ประกอบของระบบ จะอยู่ด้วยกันอย่างมีระเบียบ   ไม่มีความสับสน   และไม่มีความขัดแย้งกันในองค์ประกอบเหล่านั้น
2.การทำงานอย่างเป็นระบบจะเป็นไปได้ด้วยความสะดวก   รวดเร็ว   ประหยัดทั้งแรงงาน  เวลา และค่าใช้จ่าย
3.งานทุกอย่างจะสำเร็จตามเป้าหมายและได้ผลอย่างเต็มที่
4.การสอนอย่างเป็นระบบนั้นเป็นแนวทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งสามารถจะพิสูจน์ทดลองได้
       ระบบการเรียนการสอน  เป็นระบบย่อยในระบบการศึกษา  หรือระบบโรงเรียน  ระบบการเรียนการสอนประกอบด้วยส่วนย่อยต่างๆซึ่งมีความเกี่ยวพันซึ่งกันและกัน  ส่วนที่สำคัญ คือ  กระบวนการเรียนการสอน  ผู้สอนและผู้เรียนการเรียนการสอนจะมี  -ประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด  จะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ในส่วนต่างๆในระบบ
 การตรวจสอบของประสิทธิภาพของการเรียนการสอนนั้นได้โดยการประเมินผล  และเมื่อผลที่ออกมายังมีข้อบกพร่องก็จะต้องไปปรับปรุงส่วนประกอบในระบบต่างๆต่อไป
องค์ประกอบที่สำคัญในการเรียนการสอน
           ในกระบวนการเรียนการสอนทุกระดับ   จะประกอบด้วย  5   องค์ประกอบ   คือ
<!--[if !supportLists]-->-                   <!--[endif]-->องค์ประกอบที่ ผู้สอน
     ผู้สอนจะต้องมีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้แก่ผู้เรียนมาก  จนถึงกับมีความเชื่อกันว่าผู้สอนจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้สูงกว่าผู้เรียนมากจึงจะเกิดผลดีแก่การถ่ายทอดความรู้  ถ้าผู้เรียนกับผู้สอนมีความรู้เสมอกัน  การถ่ายทอดความรู้ก็จะไม่เกิดผล
<!--[if !supportLists]-->-                   <!--[endif]-->องค์ประกอบที่ ผู้เรียน
     องค์ประกอบที่ผู้เรียนนับว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในกระบวนการเรียนการสอนมาก  ก่อนที่ผู้สอนจะลงมือทำการสอนจะต้องศึกษาผู้เรียนให้ละเอียดทุกด้านก่อนที่จะลงมือสอน  และในขณะเดียวกันผู้สอนจะต้องศึกษาตนเองคือ  ศึกษาหาความรู้  และยุทธวิธีที่จะนำไปใช้ในการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้  เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในแนวทางที่ต้องการ
<!--[if !supportLists]-->-                   <!--[endif]-->องค์ประกอบที่ หลักสูตร
     หลักสูตรเปรียบเสมือนเข็มทิศ หรือ แผนที่ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากในกระบวนการเรียนการสอนที่จะบ่งบอกให้ผู้เรียนได้รับทราบว่าจะมีวิธีอย่างไรที่จะทำให้ไปสู่จุดมุ่งหมายได้
          -                   องค์ประกอบที่ สื่อการสอน
      สื่อการเรียนการสอน   หมายถึง  เครื่องมืออุปกรณ์ทั้งหลาย เช่น ชอล์ค กระดานดำ  แผนภูมิ  แผ่นภาพ  ตำราวารสาร  หนังสือ  ฯลฯ  วิธีการใช้สื่อการเรียนการสอนจะต้องใช้ให้เหมาะสมกับสภาพของผู้เรียน และสอดคล้องกับสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมของผู้เรียนและผู้สอนด้วย
<!--[if !supportLists]-->-                   <!--[endif]-->องค์ประกอบที่ การวัดและการประเมินผล
               องค์ประกอบของการเรียนการสอนที่สำคัญประการสุดท้ายนี้ก็คือการวัดผลและประเมินผล  ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์ประกอบในการเรียนการสอน  ในแผนภูมิที่ 11  จึงจัดเอาการวัดผลประเมินผลไว้ตรงกลาง และเชื่อมโยงลูกศรไปยังองค์ประกอบอื่นๆอีก   4  ด้าน   การวัดผลประเมินผลในองค์ประกอบการเรียนการสอนนั้นเป็นส่วนที่สำคัญมาก  และจะใช้ข้อมูลย้อนกลับ (Feed  back) ไปสู่การปรับปรุงทั้งผู้สอน  ผู้เรียน  หลักสูตร  และสื่อการเรียนการสอน
            ในการจัดการเรียนการสอนนั้น   รูปแบบและระบบการเรียนการสอนรวมทั้งขั้นตอนกระบวนการรูปแบบการเรียนการสอนจะช่วยให้การสอนดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ  และประสิทธิผล  ทำให้ครูและนักเรียนเห็นองค์ประกอบที่สัมพันธ์กัน  ประหยัดเวลา  งบประมาณและประเมินผลได้สะดวก  ซึ่งทำให้เห็นข้อบกพร่องของการดำเนินงานและสามารถปรับปรุงได้
(2)     องค์ประกอบในการเรียนการสอนด้านผู้เรียน
    ผู้เรียนเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของระบบการเรียนการสอนที่ขาดไม่ได้   ครูผู้สอนจะต้องเข้าใจลักษณะของผู้เรียนในด้านต่างๆเป็นอย่างดี  เช่น  ความแตกต่างระหว่างบุคคล  ความสนใจ  ความต้องการ  เป็นต้น   เพื่อที่จะได้ดำเนินการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับลักษณะของผู้เรียน  ซึ่งเป็นผลทำให้การเรียนการสอนบรรลุตามจุดมุ่งหมายตามที่วางไว้
 1.ผลดีของการรู้จักผู้เรียน
-ช่วยในการกำหนดจุดมุ่งหมายของการสอนให้มีความเหมาะสม
-ช่วยให้กำหนดเนื้อหาวิชาที่จะนำมาสอนเป็นไปได้อย่างเหมาะสมกับระดับความรู้  และความสามารถของผู้เรียน
-ช่วยใช้ในการแบ่งกลุ่มผู้เรียน  หรือ  มอบหมายงานให้เหมาะสมกับความรู้   ความสามารถ  และความสนใจของผู้เรียนแต่ละคน
-ช่วยให้ผู้สอนรู้ว่าระหว่างการเรียนการสอนควรที่จะช่วยผู้เรียนกลุ่มใด  หรือคนใดเป็นกรณีพิเศษ  เพื่อที่จะทำให้สามารถเรียนรู้ได้ทันผู้อื่น
2.การเตรียมผู้เรียนให้เรียนให้เกิดความพร้อม
      ความพร้อม  หมายถึง  ความสามารถที่จะเรียนรู้  ความพร้อมในการเรียนของเด็กจะขึ้นอยู่กับ  ระดับวุฒิภาวะทางร่างกาย   สติปัญญา ตลอดจนความสามารถที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้สิ่งนั้นๆ  การเตรียมให้ผู้เรียนเกิดความพร้อม  มี   3   ลักษณะ   คือ
1.การเตรียมทางด้านสิ่งแวดล้อมทางกาย   ได้แก่
-การจัดที่นั่งเพื่อสะดวกต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นถัดไป
-การจัดอุปกรณ์การเรียนสำหรับกลุ่ม  หรือสำหรับรายบุคคล
-การแนะนำวิธีการเฉพาะอย่างของกิจกรรมที่กำลังจะทำ
2.การเตรียมทางด้านสติปัญญาหรือความคิด
-การสัมพันธ์สิ่งใกล้ตัวไปหาความรู้ใหม่
-การทบทวนความรู้เก่าที่จะนำไปใช้ในเรื่องใหม่
-การแนะนำหัวข้อสำคัญในการเรียน
-การสมมุติเรื่องเพื่อให้ผู้เรียนตั้งใจคิดตอบสนองต่อบทเรียน
3.การเตรียมด้านความสนใจและอารมณ์
        บรรยากาศในการเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก   นอกจากบุคลิกภาพของครู  อาจจะใช้วิธีเหล่านี้เพื่อการเร้าความสนใจ
-เสนอวัสดุอุปกรณ์ที่สัมพันธ์กับเรื่องที่จะสอน
-ให้นักเรียนทำกิจกรรมบางอย่างให้สัมพันธ์บทเรียน
3.การสร้างบรรยากาศในห้องเรียน
       บรรยากาศในชั้นเรียนจะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมสนับสนุนการกระบวนการการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างราบรื่น  และมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศทางจิตวิทยา  ซึ่งผู้สอนเป็นผู้ที่กำหนดให้มีขึ้น     บรรยากาศทางกายภาพ  ได้แก่  อาคารสถานที่   ห้องเรียน   และสื่อการเรียนการสอน    ส่วนบรรยากาศทางสังคมนั้นก็เป็นสิ่งที่จำเป็นที่ครูต้องคำนึงถึงด้วย   เพราะจะสนับสนุนซึ่งกันและกันต่อกระบวนการเรียนการสอนให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ
   ผู้สอนเป็นบุคคลที่สำคัญในการที่จะวางแผนกิจกรรมการเรียนการสอน  เพื่อให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเกิดขึ้นได้จากการสร้างบรรยากาศต่อไปนี้
1.บรรยากาศแห่งความใกล้ชิด
2.บรรยากาศที่มีความอบอุ่น
3.บรรยากาศที่มีการยอมรับนับถือ
4.บรรยากาศแห่งความสำเร็จ
5.บรรยากาศที่ท้าทาย
6.บรรยากาศที่อิสระ
7.บรรยากาศแห่งการควบคุม
4.วินัย   (discipline)
     ลักษณะของวินัยที่ดี
<!--[if !supportLists]-->1.            <!--[endif]-->วินัยที่ดีนั้น  จะต้องเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของผู้ปฏิบัติ   ในการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ
<!--[if !supportLists]-->2.            <!--[endif]-->การรู้ให้สิทธิ  และหน้าที่ของตนและผู้อื่น
<!--[if !supportLists]-->3.            <!--[endif]-->มีความสามัคคีและปรองดองในหมู่คณะ
<!--[if !supportLists]-->4.            <!--[endif]-->มีความเคารพซึ่งกันและกัน   ระหว่างครูกับนักเรียน    และนักเรียนกับนักเรียน
<!--[if !supportLists]-->5.            <!--[endif]-->เด็กจะมีความเจริญงอกงามทุกวิถีทาง  ทั้งทางกาย  สมอง  อารมณ์และสังคม
<!--[if !supportLists]-->6.            <!--[endif]-->จะรู้จักบังคับตนเองให้มีระเบียบ   ศีลธรรม   วัฒนธรรม   มารยาที่ดี   คือการสร้างวินัยในตนเอง
 5.ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน
         ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน   ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้
<!--[if !supportLists]-->1.            <!--[endif]-->บุคลิกภาพของผู้สอน
<!--[if !supportLists]-->2.            <!--[endif]-->การวางตัวต่อผู้เรียน
<!--[if !supportLists]-->3.            <!--[endif]-->การปฏิบัติการสอน
-[if !supportLists]-->1.            <!--[endif]-->  บุคลิกภาพของผู้สอน
      เป็นสิ่งที่จูงใจให้ผู้เรียนมีความคิด  และความรู้สึกที่ดีต่อโรงเรียนจากการสัมภาษณ์  และการสังเกตในห้องเรียนปรากฏว่า   ผู้เรียนชอบเรียนกับผู้สอนที่มีบุคลิกภาพดี  พูดจาที่-ไพเราะ    รู้จักเอาใจใส่ผู้เรียน   เป็นมิตรที่ดี  มีความยุติธรรม   เข้าใจถึงความต้องการของแต่ละบุคคล  และเข้าใจถึงปัญหาต่างๆ   เป็นผู้ที่มีอารมณ์ขัน   และผู้เรียนจะเคารพผู้สอนที่มีความสุภาพ   รักษาความเที่ยงตรง   ทำตัวถูกกาลเทศะ
<!--[if !supportLists]-->2.            <!--[endif]-->การวางตัวต่อผู้เรียน
        ผู้สอนต้องรู้จักการใช้อำนาจในห้องเรียน    การใช้อำนาจในห้องเรียนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย  ถ้าผู้สอนใช้อำนาจอย่างถูกต้อง   ก็จะได้รับผลดีในการปกครองชั้นเรียน   ถ้าผู้สอนใช้อำนาจผิดๆก็จะทำให้เกิดผลเสียได้   สิ่งที่กล่าวต่อไปนี้จะมีส่วนในการแปรเปลี่ยนอำนาจของผู้สอนไปได้ต่างๆกัน   คือ
<!--[if !supportLists]-->-                   <!--[endif]-->ความเคารพต่อบุคคล
<!--[if !supportLists]-->-                   <!--[endif]-->เรื่องส่วนตัว  และปัญหาทางวิชาชีพ
<!--[if !supportLists]-->-                   <!--[endif]-->เรื่องอคติ
<!--[if !supportLists]-->3.            <!--[endif]-->การปฏิบัติการสอน
              กาปฏิบัติการสอนของผู้สอนเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของผู้เรียนที่มีต่อผู้สอนเปลี่ยนไปในทางที่ดีหือทางที่เลว   การสอนของผู้สอนในที่นี้หมายความกว้างว่าการสอนผู้เรียนในชั้นเรียนอย่างเดียว   แต่หมายรวมไปถึง   การเตรียมตัวของผู้สอน   การจัดเตรียม  วิธีการสอน   การให้การบ้านแก่ผู้เรียน   ระบบการให้คะแนน   การสอบ  และนโยบายการตัดสินการสอบได้   หรือการสอบตก  เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น